สิงคโปร์วันฝนพรำ

ซื้อแพคเกจค่าเดินทาง+ที่พัก 2 คืนของสายการบินราคาถูกครับ รวมแล้วไม่ถึง 5 พันบาท ถูกกว่าไปกระบี่อีกแน่ะ ตอนไปนั่งเครื่อง 737 ครับแต่ขากลับได้นั่งเครื่อง A320 เครื่องบินทุกวันนี้ดีนะครับ ติดเครื่องปรับอากาศให้ทั้งคนขับและห้องผู้โดยสาร เมื่อก่อนนะไม่มีแอร์ เขาต้องติดใบพัดใหญ่ๆไว้ด้านหน้าเอาไว้หมุนพัดไม่ให้คนขับร้อน แล้วเวลาใบพัดหยุดหมุนทีไรนะ คนขับน่ะเหงื่อแตกพลักๆทุกทีเลย (สงสัยร้อนมาก)

เครื่องลงจอดที่สนามบินชางฮี
เครื่องลงจอดที่สนามบินชางฮี

 

ฝนตกตั้งแต่ไปถึงเลยต้องแหง่วอยู่โรงแรม แต่ทนไม่ไหวเลยให้แท๊กซี่พาไปประตูน้ำ BUGIS เดินจนเหนื่อยก็เลยกลับโรงแรมเตรียมตัวไปสวนเมอร์ไลอ้อน ลืมบอกว่าผมเลือกที่พักเป็นย่านศูนย์กลางเอกภพ "เกลัง" ครับ
ฝนตกตั้งแต่ไปถึงเลยต้องแหง่วอยู่โรงแรม แต่ทนไม่ไหวเลยให้แท๊กซี่พาไปประตูน้ำ BUGIS
เดินจนเหนื่อยก็เลยกลับโรงแรมเตรียมตัวไปสวนเมอร์ไลอ้อน
ลืมบอกว่าผมเลือกที่พักเป็นย่านศูนย์กลางเอกภพ “เกลัง” ครับ
สวนเมอร์ไลอ้อนสัญลักษณ์(Landmark)ของประเทศนี้ อยู่แถวๆนี้แหละแต่ผมไม่ถ่ายภาพสิงโตพ่นน้ำ เพราะเบื่อครับ  (อารมณ์ประมาณภาพกิ่งสนยื่นออกมาที่ผาหล่มสัก ภูกระดึงนั่นแหละครับ)
สวนเมอร์ไลอ้อนสัญลักษณ์(Landmark)ของประเทศนี้
อยู่แถวๆนี้แหละแต่ผมไม่ถ่ายภาพสิงโตพ่นน้ำ เพราะเบื่อครับ
(อารมณ์ประมาณภาพกิ่งสนยื่นออกมาที่ผาหล่มสัก ภูกระดึงนั่นแหละครับ)
สวนเมอไลอ้อน ก็ทีมีสิงโตพ่นน้ำนั่นแหละครับ ที่ตัวเป็นสิงโตหางเป็นปลา ไม่รู้ภาษาไทยเรียกอะไร รู้แต่ว่าที่ตัวเป็นมนุษย์หัวเป็นงู เขาเรียกว่า "คนอ่านกระทู้" ภาพฝั่งตรงข้ามครับ ซ้ายมือที่เห็นอยู่หน่อยนึงคล้ายๆลูกขนุนที่ตลาดไทย เขาเรียกว่า เอ๊ดสะพลาหนาด เป็นโรงแสดงละครและดนตรี
สวนเมอไลอ้อน ก็ทีมีสิงโตพ่นน้ำนั่นแหละครับ ที่ตัวเป็นสิงโตหางเป็นปลา
ไม่รู้ภาษาไทยเรียกอะไร รู้แต่ว่าที่ตัวเป็นมนุษย์หัวเป็นงู เขาเรียกว่า “คนอ่านกระทู้”
ภาพฝั่งตรงข้ามครับ ซ้ายมือที่เห็นอยู่หน่อยนึงคล้ายๆลูกขนุนที่ตลาดไทย
เขาเรียกว่า เอ๊ดสะพลาหนาด เป็นโรงแสดงละครและดนตรี
ที่เห็นเป็นเม็ดๆเพราะว่าอัด ISO 1600 ตามความสามารถสูงสุดที่กล้องพึงกระทำได้ครับ เนื่องจากเคยขนออปชั่นไปเต็มสตีมครั้งนึง ปรากฎว่าหอบฟางเที่ยวไม่สนุกเลย คราวนี้เลยเอาไปแต่กล้องกับเลนส์ที่จำเป็น (จริงๆต้องพูดว่าเลนส์ที่มี เพราะมีอยู่เลนส์เดียว ฮา)
ที่เห็นเป็นเม็ดๆเพราะว่าอัด ISO 1600 ตามความสามารถสูงสุดที่กล้องพึงกระทำได้ครับ
เนื่องจากเคยขนออปชั่นไปเต็มสตีมครั้งนึง ปรากฎว่าหอบฟางเที่ยวไม่สนุกเลย
คราวนี้เลยเอาไปแต่กล้องกับเลนส์ที่จำเป็น (จริงๆต้องพูดว่าเลนส์ที่มี เพราะมีอยู่เลนส์เดียว ฮา)
ผมมีแต่รูปภาพนะครับ ไม่มีข้อมูลเชิงท่องเที่ยว (กรณีต้องการข้อมูลติดต่อได้ที่การท่องเที่ยวแห่งสิงคโปร์ ถนนสีลม) เรายังอยู่ที่เอ๊ดปาหนาดครับ ลานนี้อยู่ด้านข้าง แถวนี้เขาจะตบแต่งเปลี่ยนทุกๆปีไม่ให้คนที่มาเที่ยวได้เบื่อครับ ลงรถเมล์เดินข้ามสะพาน สะพานและสะพานกว่าจะถึงนี้เล่นเอาเหงื่อตกกีบเหมือนกัน
ผมมีแต่รูปภาพนะครับ ไม่มีข้อมูลเชิงท่องเที่ยว
(กรณีต้องการข้อมูลติดต่อได้ที่การท่องเที่ยวแห่งสิงคโปร์ ถนนสีลม)
เรายังอยู่ที่เอ๊ดปาหนาดครับ ลานนี้อยู่ด้านข้าง
แถวนี้เขาจะตบแต่งเปลี่ยนทุกๆปีไม่ให้คนที่มาเที่ยวได้เบื่อครับ
ลงรถเมล์เดินข้ามสะพาน สะพานและสะพานกว่าจะถึงนี้เล่นเอาเหงื่อตกกีบเหมือนกัน
นี่ขนาดไม่ได้เล่านะเนี่ย ที่ขึ้นรถเมล์เพราะเป็นช่วงเวลาที่แท็กซี่เก็บค่าบริการเพิ่มในเวลาเร่งด่วน(17.00-20.00) ตอนถามทางก่อนขึ้นรถเมล์มันส์มาก คุยจนเมื่อย ผมถามหาทางไปสวนเมอร์ไลอ้อน เขาตอบว่า "คุณเป็นเวียดนามหรือเปล่า ภาษาอังกฤษคุณเก่งมากเลยเนี่ย" เกือบชกปากสิงคโปร์ก่อนรู้สายรถเมล์แล้ว (ผมมีเพื่อนชาวสิงคโปร์ทำธุรกิจที่โกลเด้นไมล์ พวกนี้ชอบมองว่าคนไทยทุกคนโง้โง่ครับ) พอบอกว่า "ไทยเว่ย (บักห่านนี่) ตรูมาจากประเทศไทย" เขาตอบว่า "อ้าวเหรอ เออนี่ทักษินกลับมาประเทศไทยแล้วนี่" อ้าวไอ้นี่ ชวนคุยเรื่องอื่นซะงั้น แล้วตกลงตรูจะรู้ทางไปมั้ยเนี่ย
นี่ขนาดไม่ได้เล่านะเนี่ย ที่ขึ้นรถเมล์เพราะเป็นช่วงเวลาที่แท็กซี่เก็บค่าบริการเพิ่มในเวลาเร่งด่วน(17.00-20.00)
ตอนถามทางก่อนขึ้นรถเมล์มันส์มาก คุยจนเมื่อย ผมถามหาทางไปสวนเมอร์ไลอ้อน
เขาตอบว่า “คุณเป็นเวียดนามหรือเปล่า ภาษาอังกฤษคุณเก่งมากเลยเนี่ย”
เกือบชกปากสิงคโปร์ก่อนรู้สายรถเมล์แล้ว (ผมมีเพื่อนชาวสิงคโปร์ทำธุรกิจที่โกลเด้นไมล์ พวกนี้ชอบมองว่าคนไทยทุกคนโง้โง่ครับ)
พอบอกว่า “ไทยเว่ย (บักห่านนี่) ตรูมาจากประเทศไทย”
เขาตอบว่า “อ้าวเหรอ เออนี่ทักษินกลับมาประเทศไทยแล้วนี่”
อ้าวไอ้นี่ ชวนคุยเรื่องอื่นซะงั้น แล้วตกลงตรูจะรู้ทางไปมั้ยเนี่ย
กลับโรงแรมนอน วันรุ่งขึ้นไปสวนนก พอไปถึงก็นี่เลย (ตามภาพ)
กลับโรงแรมนอน วันรุ่งขึ้นไปสวนนก พอไปถึงก็นี่เลย (ตามภาพ)
ไม่รู้จะตกไปถึงไหน
ไม่รู้จะตกไปถึงไหน
อ้าวเฮ้ย หยุดแล้ว
อ้าวเฮ้ย หยุดแล้ว
18SGD ที่ซื้อตั๋ว ผมว่าได้เที่ยวประมาณ 5SGD แหละ เพราะซื้อตั๋วปุ๊บฝนตกปั๊บ ได้เดินกางร่มตากฝนดูนกแบบไม่กลัวหวัด
18SGD ที่ซื้อตั๋ว ผมว่าได้เที่ยวประมาณ 5SGD แหละ
เพราะซื้อตั๋วปุ๊บฝนตกปั๊บ ได้เดินกางร่มตากฝนดูนกแบบไม่กลัวหวัด
ไอ้ตัวนี้มองหน้าเหมือนจะพูดว่า "ถ่ายไร เดี๋ยวก็เลี้ยงซะหรอก" (ตัวนี้น่าจะเป็นนกขุนทองไม่ใช่นกเอี้ยง รอดตัวไป)
ไอ้ตัวนี้มองหน้าเหมือนจะพูดว่า “ถ่ายไร เดี๋ยวก็เลี้ยงซะหรอก”
(ตัวนี้น่าจะเป็นนกขุนทองไม่ใช่นกเอี้ยง รอดตัวไป)
ถ่ายไปเช็ดกล้องไป
ถ่ายไปเช็ดกล้องไป
กับเป็ดแดง
กับเป็ดแดง
วันรุ่งขึ้นมาอีกรอบตอนเช้า เย้ๆ ฝนไม่ตกได้นั่งกระเช้าแล้ว พร้อมตีตั๋วชุดอะไรบ้างก็ไม่รู้ เพราะตอนซื้อตั๋วคนขายถามว่าจะเข้าไปดูอะไรในเซ็นโตซ่า ผมตอบว่า "ไม่รู้ มันมีอะไรให้ดูบ้างอะ" คนขายหัวเราะ ไม่รู้หัวเราะทำไม ผมเลยจิ้มเอาอันที่แพงสุด (เสียดายค่าเข้าชม Chinatown Heritage Centre น้ำตาไหลพรากๆในภายหลัง) ที่แรกที่เข้าชมคือโลกใต้น้ำ เพิ่งมาเห็นครั้งแรก ขอบอกว่าเล็กมากขนาดเคี้ยวรสหวานของหมากฝรั่งยังไม่หมด ก็เดินครบละ ตู้แรกก็เจอเพื่อนหน้าตาคล้ายกันซะแล้ว
วันรุ่งขึ้นมาอีกรอบตอนเช้า เย้ๆ ฝนไม่ตกได้นั่งกระเช้าแล้ว
พร้อมตีตั๋วชุดอะไรบ้างก็ไม่รู้ เพราะตอนซื้อตั๋วคนขายถามว่าจะเข้าไปดูอะไรในเซ็นโตซ่า
ผมตอบว่า “ไม่รู้ มันมีอะไรให้ดูบ้างอะ”
คนขายหัวเราะ ไม่รู้หัวเราะทำไม ผมเลยจิ้มเอาอันที่แพงสุด
(เสียดายค่าเข้าชม Chinatown Heritage Centre น้ำตาไหลพรากๆในภายหลัง)
ที่แรกที่เข้าชมคือโลกใต้น้ำ เพิ่งมาเห็นครั้งแรก
ขอบอกว่าเล็กมากขนาดเคี้ยวรสหวานของหมากฝรั่งยังไม่หมด ก็เดินครบละ
ตู้แรกก็เจอเพื่อนหน้าตาคล้ายกันซะแล้ว
เขาให้ถ่ายรูปได้ครับแต่ห้ามใช้แฟลช ภาพทั้งหลายที่เห็นมันเลยเป็นเม็ดๆ ขอบอกว่าผมเห็นปูในตู้นี้แล้วคิดถึงครกส้มตำที่ร้านปากซอยทันที
เขาให้ถ่ายรูปได้ครับแต่ห้ามใช้แฟลช ภาพทั้งหลายที่เห็นมันเลยเป็นเม็ดๆ
ขอบอกว่าผมเห็นปูในตู้นี้แล้วคิดถึงครกส้มตำที่ร้านปากซอยทันที
เจอดาราด้วย โชคดีมั่กๆ
เจอดาราด้วย โชคดีมั่กๆ
จัดเป็นถ้ำให้มุดเล่นด้วย
จัดเป็นถ้ำให้มุดเล่นด้วย
ไอ้นี่หรือเปล่าไม่รู้ที่ผมชอบกินที่ร้านปลาทอง ข้าง BTS
ไอ้นี่หรือเปล่าไม่รู้ที่ผมชอบกินที่ร้านปลาทอง ข้าง BTS
จากนั้นออกไปดูหนัง 3 มิติ ที่ชื่อ CineBlast อันนี้หนุกดี (ไม่ได้ถ่ายภาพไว้) ที่นั่งจะโยกขึ้นลงตามฉากที่เราเห็นในหนังครับ หนังที่ดูจะออกแนว Adventure แต่ผมลองหลับนึกถึงหนังอีกแนว กึ๋ยส์ๆๆ (หมายถึงหนังผีสยองขวัญหรอก) จากนึ้นเข้ามาในส่วนนิทรรศการประวัติความเป็นมาของประเทศสิงคโปร์ ชื่อในบัตรเข้าชมว่า Images of Singapore
จากนั้นออกไปดูหนัง 3 มิติ ที่ชื่อ CineBlast อันนี้หนุกดี (ไม่ได้ถ่ายภาพไว้)
ที่นั่งจะโยกขึ้นลงตามฉากที่เราเห็นในหนังครับ
หนังที่ดูจะออกแนว Adventure แต่ผมลองหลับนึกถึงหนังอีกแนว กึ๋ยส์ๆๆ
(หมายถึงหนังผีสยองขวัญหรอก)
จากนึ้นเข้ามาในส่วนนิทรรศการประวัติความเป็นมาของประเทศสิงคโปร์
ชื่อในบัตรเข้าชมว่า Images of Singapore
เขาเล่าให้ฟังว่าประเทศนี้ประกอบด้วยชน 4 เชื้อชาติคือ จีน มาเลเชียน อินเดียน และยูเรเชียน ผมถามเจ้าหน้าที่ว่า "ไอ้ยูเรเชียนนี่มันประเทศอะไรพี่" เขาตอบ "ยูเรเชียนเป็นการผสมพันธุ์กันระหว่างยุโรปกับเอเชียไง (ไอ้เง่อ)" ผมว่าจะถามต่อว่า "คล้ายๆกับชิสุ+บุลด็อก=บุลชิทหรือเปล่าพี่" แต่ก็กลัวปากแตกก่อนเดินชมนิทรรศการ น้องคนนี้จะเล่าเรื่อง สลับกับคุณปู่ 4 ท่านข้างบน การฉายภาพแบบไม่มีฉากกั้นผมนึกว่ามีแต่ในหนังสตาร์วอร์สซะอีก
เขาเล่าให้ฟังว่าประเทศนี้ประกอบด้วยชน 4 เชื้อชาติคือ จีน มาเลเชียน อินเดียน และยูเรเชียน
ผมถามเจ้าหน้าที่ว่า “ไอ้ยูเรเชียนนี่มันประเทศอะไรพี่”
เขาตอบ “ยูเรเชียนเป็นการผสมพันธุ์กันระหว่างยุโรปกับเอเชียไง (ไอ้เง่อ)”
ผมว่าจะถามต่อว่า “คล้ายๆกับชิสุ+บุลด็อก=บุลชิทหรือเปล่าพี่” แต่ก็กลัวปากแตกก่อนเดินชมนิทรรศการ
น้องคนนี้จะเล่าเรื่อง สลับกับคุณปู่ 4 ท่านข้างบน
การฉายภาพแบบไม่มีฉากกั้นผมนึกว่ามีแต่ในหนังสตาร์วอร์สซะอีก
นั่งฟังเขาเล่าเรื่องจนจบก่อนที่จะเริ่มเข้าเดินชม
นั่งฟังเขาเล่าเรื่องจนจบก่อนที่จะเริ่มเข้าเดินชม
ส่วนนิทรรศการประวัติความเป็นมาของประเทศสิงคโปร์
ส่วนนิทรรศการประวัติความเป็นมาของประเทศสิงคโปร์
ตรงทางเดินเขาชม เหมือนเป็น Timeline ครับ เริ่มจากส่วนที่เก่าแก่สุดไปเรื่อยๆ
ตรงทางเดินเขาชม เหมือนเป็น Timeline ครับ
เริ่มจากส่วนที่เก่าแก่สุดไปเรื่อยๆ
ไปทีละช่วงเวลา
ไปทีละช่วงเวลา
ทีละช่วง
ทีละช่วง
จำลองร้านรวงและการค้าขายในสมัยนั้น
จำลองร้านรวงและการค้าขายในสมัยนั้น
และสิ่งของเครื่องใช้
และสิ่งของเครื่องใช้
สินค้าแต่ละยุคสมัย
สินค้าแต่ละยุคสมัย
จำลองชีวิตความเป็นอยู่วัฒนธรรมประเพณีของแต่ละเชื้อชาติในประเทศ
จำลองชีวิตความเป็นอยู่วัฒนธรรมประเพณีของแต่ละเชื้อชาติในประเทศ
เหมือนผมเดินเที่ยวคนเดียวเลย จริงๆมีนักท่องเที่ยวอื่นด้วยนะ แต่ผมพยายามหามุมที่ไม่มีคน แต่ภาพนี้ช่วยไม่ได้จริงๆ
เหมือนผมเดินเที่ยวคนเดียวเลย จริงๆมีนักท่องเที่ยวอื่นด้วยนะ แต่ผมพยายามหามุมที่ไม่มีคน แต่ภาพนี้ช่วยไม่ได้จริงๆ
จนมาถึงยุคปัจจุบัน
จนมาถึงยุคปัจจุบัน
ทั้งหมดใน Images of Singapore ผมให้คะแนนเต็ม 10 เลยครับ แต่ที่ได้ใจผมเต็มๆก็ตรงที่ให้ถ่ายรูปได้นี่แหละ (ถึงจะไม่ให้ใช้แฟลชก็เถอะ)
ทั้งหมดใน Images of Singapore ผมให้คะแนนเต็ม 10 เลยครับ
แต่ที่ได้ใจผมเต็มๆก็ตรงที่ให้ถ่ายรูปได้นี่แหละ (ถึงจะไม่ให้ใช้แฟลชก็เถอะ)
ส่วนท้ายสุด อยากเห็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนซักแห่งในประเทศไทยทำอะไรแบบนี้บ้างจัง
ส่วนท้ายสุด
อยากเห็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ไหนซักแห่งในประเทศไทยทำอะไรแบบนี้บ้างจัง

ใส่ความเห็น